หากถามถึงทะเลที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางไม่นานแต่สวยงามไม่แพ้ทะเลฝั่งอันดามันหรืออ่าวไทย หลาย ๆ คนจะต้องมีชื่อเกาะเสม็ดอยู่ในคำตอบแน่นอน เพราะเป็นเกาะที่อยู่ในจังหวัดระยอง มีระยะทางระหว่างกรุงเทพฯ ไปเกาะเสม็ดเพียง 190 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงก็จะได้พบหาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลสีฟ้าใสรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ที่เกาะเสม็ดแล้ว
ใครที่วางแผนจะพาครอบครัวไปเที่ยวเกาะเสม็ดในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมโดยการจองตั๋วเครื่องบินให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง โดยการเดินทางไปยังเกาะเสม็ดนั้นสามารถซื้อตั๋วเครื่องบินไปพัทยาหรือที่รู้จักกันในชื่อสนามบินอู่ตะเภา ใครพร้อมแล้วก็แพ็กกระเป๋าแล้วไปเช็กอินที่เกาะเสม็ดกันเลย
เปิดแพลนเที่ยว เดินครบ 20 จุดเช็กอินเกาะเสม็ด
ก่อนจะออกเดินทาง ใครที่มีตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้วก็อย่าลืมจองที่พักเกาะเสม็ดกันไว้ล่วงหน้า เพราะถ้าหากเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวก็อาจจะไม่มีที่พักสำหรับการ Walk-in โดยสามารถจองโรงแรมหรือรีสอร์ตบนแอป Traveloka แอปที่รวบรวมดีลที่พักราคาดีบนเกาะเสม็ดมาไว้ให้เลือกมากมาย ใครที่พร้อมเดินทางไปเกาะเสม็ดแล้วแต่ยังไม่มีลิสต์สถานที่เที่ยว บทความนี้ก็ได้รวบรวมจุดเช็กอินสุดฮิต 20 แห่งบนเกาะเสม็ดมาให้แล้ว ที่ไหนฮิต ที่ไหนบรรยากาศดี ไปดูกันเลย
1. อ่าวพร้าว
อ่าวพร้าวเป็นอ่าวแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บริเวณฝั่งตะวันตกของเกาะเสม็ด เป็นชายหาดที่เงียบสงบมีความเป็นส่วนตัว เนื่องจากมีรีสอร์ตตั้งอยู่บนบริเวณอ่าวแห่งนี้ไม่มาก เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัว ใครที่วางแผนจะไปเที่ยวเกาะเสม็ดแล้วต้องการที่พักที่บรรยากาศร่มรื่น คนไม่พลุกพล่านก็สามารถมาพักที่อ่าวพร้าวได้เลย
2. วัดเกาะเสม็ด
วัดเกาะเสม็ดหรือที่รู้จักกันในชื่อวัดเกาะแก้วพิสดาร เป็นวัดแห่งเดียวที่อยู่บนเกาะเสม็ด ภายในวัดมีพระอุโบสถที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่บริเวณด้านหน้าวัดอีกด้วย หากใครที่ต้องการเดินทางมาขอพรหรือกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล ก็สามารถเดินทางมาที่วัดเกาะเสม็ดได้เลย
3. Sawasdee-coco Cafe
Sawasdee-coco Cafe เป็นคาเฟ่ที่ตั้งอยู่บริเวณหาดทรายแก้ว ตัวคาเฟ่ตกแต่งด้วยสไตล์มินิมอลโทนสีขาว มีมุมถ่ายรูปน่ารัก ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้มาเช็กอินกัน นอกจากนี้ยังมีอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อิตาเลี่ยนโซดา สมูทตี้ หรือของว่างอย่างขนมปัง แฮมเบอร์เกอร์ก็มีให้ทานรองท้องด้วย ใครที่มองหาคาเฟน่ารัก ๆ มีมุมถ่ายรูปให้ทำคอนเทนต์ Sawasdee-coco Cafe ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
4. อ่าววงเดือน
อ่าววงเดือน เป็นชายหาดอีกแห่งที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเกาะเสม็ด ด้วยลักษณะที่โค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยวทำให้ชายหาดแห่งนี้ได้ชื่อว่าอ่าววงเดือน โดยบริเวณอ่าววงเดือนมีกิจกรรมมากมายให้บริการนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร บาร์ต่าง ๆ หรือกิจกรรมทางน้ำอย่าง เรือคายัค เรือแคนู ถือว่าเป็นอีกไฮไลต์ของเกาะเสม็ดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
5. ร้านอาหารบ้านพลอยเสม็ด
ร้านอาหารบ้านพลอยเสม็ด เป็นร้านอาหารไทยที่ตั้งอยู่บริเวณอ่าวน้อยหน่า ตัวร้านให้กลิ่นอายความเป็นไทยด้วยอาคารแบบเรือนไทยและการนั่งทานอาหารแบบขันโตก นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลรสชาติเข้มข้นอย่าง
น้ำพริกไข่ปู, แกงส้มหน่อไม้ปูนิ่มดอง, หอยตลับผัดพริกเผา และปลากะพงทอดน้ำปลา ที่เป็นเมนูแนะนำของทางร้าน ใครที่กำลังหาร้านอาหารริมหาดบรรยากาศดีบนเกาะเสม็ดแนะนำร้านนี้เลย
6. เกาะกุฎี
เกาะกุฎี หรือรู้จักกันในชื่อ เกาะกุด เป็นเกาะที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะเสม็ด บนเกาะกุฎีมีชายหาดที่สวยงามและเงียบสงบ แต่จะมีที่พักเพียงแค่ 5 หลัง ซึ่งหากใครที่ต้องการไปนอนค้างคืนบนเกาะกุฎีก็จะต้องติดต่อจองบ้านพักกับทางอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดก่อน นอกจากนี้บนเกาะกุฎียังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวทำมากมายไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำดูปะการัง ตั้งแคมป์ หรือตกหมึก
7. อ่าวน้อยหน่า
อ่าวน้อยหน่า เป็นชายหาดที่อยู่บริเวณทางทิศเหนือของเกาะเสม็ด เป็นชายหาดขนาดเล็กที่รายล้อมไปด้วยหาดทรายและน้ำทะเล มีบรรยากาศที่เงียบสงบแตกต่างจากชายหาดอื่น ๆ ภายในเกาะเสม็ด นอกจากนี้บริเวณอ่าวน้อยหน่ายังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการตกหมึกอีกด้วย
8. แหลมเตย
แหลมเตย หรืออ่าวเตย เป็นอ่าวขนาดเล็กบนเกาะเสม็ดมีสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นโขดหิน จึงไม่เหมาะสำหรับการลงเล่นน้ำ แต่แหลมเตยเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดบนเกาะเสม็ด นอกจากนี้ยังเป็นบริเวณที่มีปลาชุกชุม จึงมีนักท่องเที่ยวรวมถึงชาวบ้านนิยมมาตกปลาที่บริเวณแหลมเตย และถ้าหากโชคดีก็มีโอกาสเจอฉลามบริเวณนี้ได้อีกด้วย
9. เกาะทะลุ
เกาะทะลุ เป็นหนึ่งในเกาะที่อยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด มีขนาดเล็กเพียง 60 กว่าไร่ แต่เป็นเกาะที่เป็นที่นิยมในการมาดำน้ำของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนอย่างเดือนเมษายน เนื่องจากเกาะทะลุเป็นเกาะที่มีแนวปะการังสวยที่สุดในบรรดาทะเลในจังหวัดระยอง และมีจุดเด่นอยู่ที่ช่องหินธรรมชาติที่น้ำทะเลสามารถทะลุผ่านได้ อีกทั้งยังมีต้นไม้ปกคลุมทั้งเกาะทำให้มีบรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบเหมาะกับการมาดำน้ำและพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง
10. The Kitt & Food
The Kitt & Food เป็นร้านอาหารทะเลที่ตั้งอยู่บริเวณหาดทรายแก้วบนเกาะเสม็ด จุดเด่นของร้านจะเป็นเมนูอาหารทะเลสดหรือเมนูซาชิมิต่าง ๆ อย่าง กุ้งมังกรซาชิมิ กั้งกระดานซาชิมิ หมึกซาชิมิ หรือจะเป็นเมนูอาหารทะเลอื่น ๆ อาทิ ห่อหมกมะพร้าวอ่อน, ปูไข่ดอง, กั้งแก้วทอดกระเทียม, แกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว และอื่น ๆ อีกมากมาย ใครที่ชื่นชอบอาหารทะเลรับรองว่ามาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอน
11. หาดทรายแก้ว
หาดทรายแก้ว เป็นหาดในเกาะเสม็ดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในการมาเล่นน้ำเนื่องจากเป็นชายหาดที่มีทรายสีขาวละเอียด นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมมากมายบนชายหาดไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารและบาร์ต่าง ๆ ที่พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังเต็มไปด้วยแสงสี และการแสดงต่าง ๆ ที่สร้างความคึกคัก สนุกสนานให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
12. อ่าวปะการัง
อ่าวปะการัง เป็นอ่าวที่อยู่ทางใต้สุดของเกาะเสม็ดและอยู่ห่างไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกทั้งยังไม่มีร้านอาหารหรือที่พัก ทำให้อ่าวปะการังเป็นจุดเช็กอินที่เงียบสงบมาก ใครที่ต้องการผ่อนคลายจากความเครียดและความเหนื่อยล้าก็สามารถมานั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกที่อ่าวปะการังได้
13. ท่าเรือหน้าด่าน
ท่าเรือหน้าด่าน หรือรู้จักกันในชื่อท่าเรือเกาะเสม็ด เป็นท่าเรือที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องมาลงเรือที่นี่เพื่อชำระค่าเข้าอุทยาน ไฮไลต์ของที่นี่คือรูปปั้นนางผีเสื้อสมุทรขนาดใหญ่ที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่บริเวณหน้าท่าเรือ ถือว่าเป็นจุดเช็กอินเกาะเสม็ดที่ไม่ว่าใครจะมาเที่ยวก็จะต้องมาถ่ายรูปที่นี่
14. อ่าวลูกโยน
อ่าวลูกโยน เป็นอ่าวขนาดเล็กที่อยู่ทางทิศเหนือของเกาะเสม็ด เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มากางเต็นท์นอน เนื่องจากเป็นอ่าวที่มีความสงบร่มรื่น คนไม่พลุกพล่านแต่ก็ตั้งอยู่ไม่ไกลจากแหล่งชุมชนและร้านขายสินค้า นอกจากนี้ อ่าวลูกโยนยังตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือหน้าด่านเพียง 200 เมตรเท่านั้น แต่ยังไม่ถึงจุดที่ต้องชำระค่าเข้าอุทยานทำให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้ามาเล่นน้ำหรือกางเต็นท์ที่อ่าวแห่งนี้
15. อ่าวหวาย
อ่าวหวาย เป็นชายหาดมีความเงียบสงบที่สุดบนเกาะเสม็ด มีร้านอาหารน้อยและยังมีที่พักอยู่เพียง 1 แห่ง บริเวณอ่าวหวายจะมีต้นเทียนทะเลขึ้นยาวตลอดแนวหาด มีทรายสีขาวละเอียดและมีน้ำทะเลสีใสไม่แพ้อ่าวอื่น ๆ ในเกาะเสม็ด ดังนั้นอ่าวหวายจึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเล่นน้ำ อาบแดดหรือฟังเสียงคลื่นเพื่อผ่อนคลายจากความเครียด
16. Sea Sky Cafe
Sea Sky Cafe เป็นคาเฟที่ตั้งอยู่บริเวณหาดทรายแก้วบนเกาะเสม็ด ภายในตกแต่งด้วยสไตล์บาหลีโทนฟ้าขาว มีเครื่องดื่มอย่าง อิตาเลี่ยนโซดา กาแฟ และสมูทตี้ให้ดื่มดับร้อน นอกจากนี้ยังมีมุมถ่ายรูปริมชายหาดที่ตกแต่งอย่างสวยงามไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเช็กอินกันด้วย
17. อ่าวไผ่
อ่าวไผ่ เป็นอ่าวที่มีขนาดเล็กแห่งหนึ่งบนเกาะเสม็ดแต่ก็ยังมีร้านอาหารและบาร์ริมทะเล เหมาะสำหรับใครที่ต้องการทานอาหารหรือหาเครื่องดื่มบนชายหาดที่มีความเป็นส่วนตัวไม่มีคนพลุกพล่าน นอกจากนี้อ่าวไผ่ก็ยังมีชายหาดที่ขาวสะอาด เหมาะสำหรับการเล่นน้ำหรือนั่งปิกนิกริมทะเล
18. Tonsak Cafe & Restaurant
Tonsak Cafe & Restaurant อีกหนึ่งที่เที่ยวเกาะเสม็ดที่ติดทะเล ภายในตกแต่งด้วยสไตล์บาหลี มีเครื่องดื่มและอาหารที่เป็นเมนูแนะนำ อาทิ หมึกผัดไข่เค็ม, ปลากะพงทอดน้ำปลา, กุ้งเผากระเทียมหรือผัดฉ่าทะเล นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอย่างโชว์ควงกระบองไฟที่ทุกวันเวลา 1 ทุ่ม ถือเป็นกิจกรรมไฮไลต์ของคาเฟแห่งนี้เลย
19. อ่าวนวล
อ่าวนวล ตั้งอยู่บริเวณทิศตะวันออกของเกาะเสม็ดและเป็นอ่าวที่มีขนาดเล็กที่สุดบนเกาะเสม็ด อ่าวนวลเป็นอ่าวที่มีน้ำทะเลใสมากจนสามารถมองเห็นโขดหินที่อยู่ใต้น้ำได้ นอกจากนี้ภายในอ่าวนวลมีที่พักอยู่เพียง 1 แห่ง ทำให้หาดแห่งนี้มีความเป็นส่วนตัวมาก ๆ เหมาะกับการใช้เวลาอยู่กับครอบครัว หรือใครต้องการหลีกหนีความวุ่นวายก็มาเช็กอินที่อ่าวนวลกันได้
20. Brown Cabin Chocolate Cafe
Brown Cabin Chocolate Cafe เป็นคาเฟบนเกาะเสม็ดที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติและความสบายตา ตัวคาเฟตกแต่งเป็นกระท่อมทรงสามเหลี่ยม โดดเด่นด้วยเมนูช็อกโกแลต อาทิ Brown Singnature Chocolate, Chocolate Cake, Banoffee หรือครัวซองต์ราดซอสช็อกโกแลต เรียกได้ว่าใครที่ชื่นชอบช็อกโกแลตห้ามพลาดคาเฟแห่งนี้เลย
ข้อมูลที่น่าสนใจเมื่อต้องการไปเกาะเสม็ด
นอกจาก 20 จุกเช็กอินบนเกาะเสม็ดแล้ว บทความนี้ยังได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจของเกาะเสม็ดไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปเกาะเสม็ด วิธีการเดินทางภายในเกาะเสม็ดและข้อมูลฤดูกาลท่องเที่ยวของเกาะเสม็ด ใครที่วางแผนจะไปเที่ยวเกาะเสม็ดก็สามารถศึกษาข้อมูลเหล่านี้ก่อนเดินทางได้เลย
ข้อมูลเกาะเสม็ดในเบื้องต้น
เกาะเสม็ด ตั้งอยู่ในตำบลเพ จังหวัดระยอง เป็นเกาะที่อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด มีระยะห่างจากชายฝั่งบ้านเพประมาณ 6.5 กิโลเมตร เกาะเสม็ดมีพื้นที่ประมาณ 3,125 ไร่ ประกอบไปด้วยอ่าวกว่า 16 อ่าว และมีประชากรที่ใช้ชีวิตอยู่บนเกาะอยู่ประมาณ 1,500 คน
ชื่อเกาะ “เสม็ด” มีที่มาจากต้นเสม็ดขาว และต้นเสม็ดแดงที่ขึ้นอยู่บนเกาะเป็นจำนวนมาก โดยในสมัยก่อนชาวบ้านจะนำขี้ไต้ของต้นเสม็ดมาใช้จุดไฟ เพื่อสร้างความอบอุ่นและใช้ทำอาหาร เป็นที่มาของชื่อเกาะเสม็ดนั้นเอง
การเดินทางไปท่องเที่ยวเกาะเสม็ด
การเดินทางไปเกาะเสม็ดนั้นมีวิธีการเดินทางหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรถตู้ รถบัส หรือเครื่องบิน แต่วิธีที่สะดวกและใช้เวลาน้อยที่สุดก็คือการขึ้นเครื่องบินนั้นเอง ใครที่แพลนไปเที่ยวเกาะเสม็ดก็สามารถจองตั๋วเครื่องบินที่แอป Traveloka และเลือกสนามบินปลายทางเป็นสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยาได้เลย
หลังจากถึงสนามบินแล้วก็สามารถนั่งรถรับจ้างต่อไปยังท่าเรือข้ามเกาะในตำบลบ้านเพได้เลย ระยะทางจากสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง–พัทยาไปเกาะเสม็ดจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาทีโดยจะมีท่าเรือให้เลือกข้ามไปยังเกาะเสม็ดหลายท่า หากนั่งรถมาจากสนามบินก็จะเจอท่าเรือศรีบ้านเพเป็นท่าเรือแรก ต่อมาจะเจอท่าเรือโชคกฤษฎา ท่าเรือสะพานใหม่ ท่าเรือนวลทิพย์ และท่าเรือเทศบาลบ้านเพ แต่ละท่าก็จะมีค่าบริการเรือข้ามไปเกาะเสม็ดประมาณ 100 บาท
การเดินทางภายในจังหวัดไปยังที่เที่ยวเกาะเสม็ด
หลังจากมาถึงเกาะเสม็ดแล้วการเดินทางไปยังที่พักบางโรงแรมหรือบางรีสอร์ตจะมีรถให้บริการรับ-ส่งนักท่องเที่ยวจากท่าเรือ ส่วนการเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะจะมีรถสองแถวให้บริการ ซึ่งมีทั้งราคาเหมาประมาณ 200-300 บาทต่อเที่ยว หรือถ้าใครสามารถขับรถมอเตอร์ไซค์ได้ก็สามารถเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขับบนเกาะเสม็ดได้เลย จะมีราคาเช่าอยู่ที่ชั่วโมงละ 100-150 หรือ 300-500 บาทต่อวันขึ้นอยู่กับร้านที่เช่า
ข้อมูลฤดูกาลสำหรับการท่องเที่ยวเกาะเสม็ด
เกาะเสม็ดเป็นเกาะที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เนื่องจากตั้งอยู่ในภาคตะวันออกที่ได้รับอิทธิพลจากลมทะเลทำให้อากาศไม่ร้อนอบอ้าวในฤดูร้อน ไม่หนาวจัดในช่วงฤดูหนาว และไม่มีพายุในช่วงฤดูฝน การเที่ยวเกาะเสม็ดแต่ละฤดูก็จะมีเสน่ห์และความสวยงามที่แตกต่างกัน
อย่างฤดูร้อนก็เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเกาะเสม็ดเพื่อทำกิจกรรมทางน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำดูปะการัง พายเรือ หรือตกหมึก ส่วนฤดูหนาวก็จะมีลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งวัน ส่วนหน้าฝนถึงแม้จะมีโอกาสที่ฝนจะตกบ้างแต่ก็จะได้บรรยากาศการพักผ่อนที่มีความสงบและเป็นส่วนตัว โดยเกาะเสม็ดมีช่วงเดือนของฤดูต่าง ๆ ดังนี้
- ฤดูร้อน เริ่มต้นที่กุมภาพันธ์ไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม
- ฤดูฝน เริ่มต้นช่วงกลางเดือนพฤษภาคมไปจนถึงกลางเดือนตุลาคม
- ฤดูหนาว เริ่มต้นช่วงกลางเดือนตุลาคมไปจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์
