เที่ยวทะเล เที่ยววัดไทย-ไหว้พระ

เปิด 20 ที่สุดจุดเช็คอินกระบี่สวยงามอลังการ ใครไม่ไปถือว่าพลาด!

20 จุดเช็คอินกระบี่สุดอลังการ

เกาะพีพี

1. เกาะพีพี

นี่คือเกาะสวยซึ่งหนึ่งจุดหมายยอดนิยมของกระบี่ ที่ไม่ใช่เฉพาะคนไทยเท่านั้นที่อยากมา แต่บรรดาคนรักทะเลทั่วโลกก็มุ่งหน้ามาที่นี่กันหนาแน่นตลอดทั้งปี เกาะพีพีนั้นแบ่งออกเป็นพีพีเลและพีพีดอนนะ เกาะพีพีดอนนั้นเป็นพิกัดเพียบพร้อมทั้งความสวยและสะดวกสบายแบบครบครัน แถมยังเคยได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในเกาะสวยที่สุดของโลกมาแล้วด้วยน้า ส่วนเกาะพีพีเลนั้นอยู่ไกลกว่า และมีพิกัดสวยซึ่งนักท่องเที่ยวรู้จักกันดีอย่างอ่าวมาหยารวมอยู่ด้วยนะ พีพีนั้นเป็นพิกัดที่สวยทั้งบนบกและใต้น้ำเลยจ้ะ คนรักทะเลห้ามพลาดเลยนะ ซัมเมอร์นี้รีบปักหมุดมาเลย!

วัน – เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม: ฟรี

หาดไร่เลย์

2. หาดไร่เลย์

บอกเลยว่านี่คือหนึ่งในพิกัดสุดอเมซิ่งของกระบี่ เพราะหาดไร่เลย์นั้นเป็นชายหาดที่ตั้งอยู่บนชายฝั่ง แต่การมาที่เกาะนี้ต้องนั่งเรือเท่านั้นจ้า เพราะรอบหาดไร่เลย์นั้นเต็มไปด้วยผาสูงรอบด้าน การมาหาดนี้จึงให้บรรยากาศเหมือนได้ข้ามไปเที่ยวเกาะกันแบบเบาๆ เลยละ นอกจากชายหาดยาวเหยียดขาวสะอาดและน้ำทะเลสวยใสน่าแหวกว่ายแล้ว คนรักกิจกรรมแอดเวนเจอร์ก็ห้ามพลาดการมาปีนผาที่นี่เลยจ้า เพราะนี่คือหนึ่งในพิกัดปีนผาที่ว่ากันว่ามีวิวสวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่งเลยนะ มาชิลล์ก็ได้ มามันก็เด็ดจ้ะ นี่คืออีกหนึ่งที่เที่ยวกระบี่ที่แนะนำว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

วัน – เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม: ฟรี

สระมรกต

3. สระมรกต

สระมรกตของกระบี่นั้น เป็นหนึ่งในพิกัดที่จัดอยู่ในหมวด Unseen Thailand ด้วยจ้า เพราะนี่คือสระน้ำจืดสีฟ้าใจกลางผืนป่าที่ทั้งสวยและทั้งใส แถมน้ำในสระยังเป็นน้ำอุ่นด้วยน้า อุณหภูมิของน้ำที่นี่จะอยู่ที่ประมาณ 30 – 50 องศาเซลเซียสเลยนะ ที่นี่จึงเป็นสระน้ำอุ่นตามธรรมชาติที่รายล้อมไปด้วยสีเขียวของป่าไม้ แถมยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้เดินเล่นกันด้วยนะ แต่ถ้าอยากเล่นน้ำแบบเป็นส่วนตัวหรือถ่ายรูปเช็คอินสวยๆ แบบไม่ติดผู้คนยุ่บยั่บ แนะนำว่าให้มากันตอนเช้าหน่อยจ้า ช่วงสายๆ เป็นต้นไป จะมีนักท่องเที่ยวมาที่นี่หนาตาเลยละ ตื่นเช้าหน่อยแต่รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน

วัน – เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 8.00 – 17.00 น.

ค่าเข้าชม: เด็ก 10 บาท / ผู้ใหญ่ 20 บาท

วัดถ้ำเสือ

4. วัดถ้ำเสือ

วัดถ้ำเสือในกระบี่เป็นอีกพิกัดที่อยากชวนให้ทั้งสายบุญและสายเที่ยวแวะมา เพราะที่นี่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมงดงามอลังการน่าตื่นตาตื่นใจ แถมยังมีไฮไลท์เป็นจุดชมวิวบนยอดเขาสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 600 เมตร ซึ่งต้องเดินขึ้นบันได 1,237 ขั้นขึ้นไป จากจุดชมวิวแห่งนี้เราจะเห็นความสวยมุมสูงของเมืองกระบี่ได้แบบ 360 องศา ช่วงปลายฝนไปจนถึงหน้าหนาวยังมีทะเลหมอกให้ชมกันได้จากจุดนี้กันบ่อยๆ เลยด้วยจ้า การขึ้นไปสร้างเจดีย์ยอดเขาว่าอเมซิ่งแล้วนะ แต่ทิวทัศน์รอบด้านนั้นสวยปังยิ่งกว่า มาตอนเช้าหรือเย็นจะชิลล์มากเพราะแดดไม่ร้อนจ้า อย่าลืมแวะมาเช็คอินกัน

วัน – เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 6.00 – 19.00 น.

ค่าเข้าชม: ฟรี

หาดถ้ำพระนาง

5. หาดถ้ำพระนาง

หาดถ้ำพระนางคืออีกหนึ่งชายหาดชื่อดังของเมืองกระบี่ ซึ่งเป็นพิกัดที่สามารถมาชมพระอาทิตย์ตกได้สวยที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดนี้เลยด้วยนะ นอกจากความสวยของชายหาดและทิวทัศน์รอบด้านแล้ว หาดนี้ยังมีศาลเล็กๆ ที่ชาวบ้านในท้องถิ่นให้ความเชื่อถือศรัทธา โดยเฉพาะบรรดาผู้ที่ทำอาชีพประมงพื้นบ้านนั้นเชื่อกันว่าก่อนจะออกเรือไปหาปลาต้องมาไหว้ขอพรกันเพื่อการเดินทางที่ปลอดภัย มาที่นี่ได้เห็นทิวทัศน์สวยๆ ของน้ำทะเลใสๆ และชายหาดกว้าง แถมใครเป็นสายมูก็ยังมีที่ให้แวะมาเช็คอินกันได้ มากระบี่เมื่อไหร่แวะมาจัดกันได้เลย

วัน – เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม: ฟรี

เกาะลันตา

6. เกาะลันตา

นี่คือเกาะขนาดใหญ่ซึ่งมีผู้คนอยู่อาศัยมานับร้อยปี และที่เริ่ดก็คือสามารถเดินทางด้วยรถยนต์มาจากตัวเมืองกระบี่ได้เลยด้วยจ้า โดยการนำรถลงแพขนานยนต์ข้ามจากบนฝั่งไปยังตัวเกาะเลยนะ บนเกาะลันตามีทั้งชาวไทยเชื้อสายจีน ชาวไทยพุทธ ไทยมุสลิม และชาวเล อาศัยอยู่ร่วมกัน ทำให้ที่นี่มีวัฒนธรรมผสมผสานหลากหลายน่าสนใจ ผู้คนส่วนใหญ่ก็ยังใช้ชีวิตตามวิถีชุมชนท้องถิ่นแบบเรียบง่าย ในขณะที่ยังมีชายหาด น้ำทะเลสวยใส จุดดำน้ำ ตลาดท้องถิ่น น้ำตก และแหล่งท่องเที่ยววิถีชุมชนให้ไปเช็คอินกันด้วยนะ นี่คืออีกหนึ่งในที่เที่ยวกระบี่ที่เชื่อว่าหลายคนน่าจะถูกใจ

วัน – เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง (แพขนานยนต์เปิดให้บริการเวลาประมาณ 6.00 – 22.00 น.)

ค่าเข้าชม: ฟรี (มีค่าเรือข้ามฟากสำหรับรถยนต์คันละ 100 บาท สำหรับผู้โดยสารคนละ 10 บาท)

ทะเลแหวก

7. ทะเลแหวก

นี่คือหนึ่งในที่เที่ยวกระบี่ซึ่งหลายคนน่าจะเคยเห็นผ่านตา เพราะเป็นหนึ่งในพิกัด Unseen Thailand ซีซั่นแรกของเมืองไทย ทะเลแหวกเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ เนื่องจากเป็นสันทรายที่กระแสน้ำและคลื่นลมพัดมาทับถมอยู่กลางทะเลจนกลายเป็นสันดอน เวลาน้ำลงสุดๆ จะเห็นเป็นถนนสีขาวทอดตัวยาวเชื่อมเกาะ 3 เกาะ คือเกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทับเข้าไว้ด้วยกัน ถ้าเลือกจังหวะเดินทางมาถึงในช่วงที่น้ำลดลงต่ำพอดี จะเหมือนเราได้มีชายหาดส่วนตัวอยู่กลางอันดามันเลยเชียวละ ใครอยากได้รูปสวยๆ มาโพสต์ท่าแชะรูปที่นี่ไม่มีผิดหวังจ้า เลือกเวลาให้ดีก็แล้วกัน!

วัน – เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง (ควรศึกษาเวลาน้ำขึ้น – น้ำลงก่อนเดินทาง)

ค่าเข้าชม: ค่าเข้าอุทยาน คนละ 40 บาท (ไม่รวมค่าเรือเดินทางหรือทัวร์)

 เกาะรอก

8. เกาะรอก

ใครอยากฟินกับความสวยของทะเลกันให้จุใจ นี่คือพิกัดที่พลาดไม่ได้เลยเชียวละ เกาะรอกนั้นตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อของจังหวัดตรังและกระบี่ เกาะนี้มีทีเด็ดที่หาดทรายขาวเนียนละเอียดนุ่มเท้า น้ำทะเลสีฟ้าก็ใสแจ๋วราวกับคริสตัล มีปะการังและโลกใต้ทะเลที่งดงามชนิดที่คนรักการดำน้ำต้องถูกใจสุดๆ เลยละ นอกจากความสวยสมบูรณ์ของธรรมชาติแล้ว เกาะรอกยังมีบรรยากาศสงบสบาย จนได้รับการขนานนามให้เป็น ‘ราชินีแห่งอันดามัน’ กันเลยนะ ซัมเมอร์นี้ใครอยากสะใจกับความสวยของทะเลกระบี่ ใส่เกาะนี้ลงลิสต์เอาไว้เลย

วัน – เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง (ยกเว้นช่วงปิดอุทยานในช่วงประมาณ 16 พฤษภาคม – 14 ตุลาคมของทุกปี)

ค่าเข้าชม: เด็ก 20 บาท / ผู้ใหญ่ 40 บาท

 หนองทะเล

9. หนองทะเล

นี่คือที่เที่ยวกระบี่ซึ่งมีความสวยแปลกตาไม่เหมือนที่ไหน เพราะเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่เนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ในเขตอำเภอเมืองเลยจ้า ว่ากันว่านี่คือหนึ่งในจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดของกระบี่เลยเชียวละ เพราะทั้งสีของท้องฟ้า แสง เงา และรูปร่างของภูเขาที่อยู่รอบด้าน บอกเลยว่าคนรักการถ่ายภาพต้องปักหมุดเอาไว้เลยจ้า มายืนดูริมฝั่งก็ได้ หรือถ้าอยากชิลล์กว่านั้นเค้าก็มีบริการล่องแพพร้อมอาหารเช้าให้ใช้บริการกันด้วยจ้ะ ใครมากระบี่แล้วอยากดูพระอาทิตย์ขึ้นในแบบอื่นนอกจากริมทะเลบ้างละก็ ขอแนะนำว่าอย่าพลาดที่นี่เลย

วัน – เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม: ฟรี

เกาะปอดะ

10. เกาะปอดะ

นี่คือเกาะสวยของกระบี่ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากชายหาดอ่าวนางออกไปประมาณ 8 กิโลเมตร ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี เกาะปอดะมีธรรมชาติที่บริสุทธิ์สะอาดและมีชายหาดล้อมรอบเอาไว้เกือบทุกด้าน และเพราะการเดินทางที่สะดวกสบายซึ่งใช้เวลาไม่นาน ทำให้เกาะนี้มีผู้คนนิยมไปเที่ยวกันเกือบตลอดเวลา เกาะนี้มีน้ำทะเลสีฟ้าใสและมีหาดทรายขาวละเอียดสะอาดตา ถึงจะอยู่ใกล้ฝั่งแต่ความสวยของที่นี่ไม่น้อยหน้าเกาะที่อยู่ไกลออกไปเลยเชียวละ ใครไม่อยากนั่งเรือออกไปไกลๆ นี่คือที่เที่ยวกระบี่ซึ่งคุณจะถูกใจแน่นอน

วัน – เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม: เด็ก 20 บาท / ผู้ใหญ่ 40 บาท

เขาหงอนนาค

11. เขาหงอนนาค

ใครเป็นสายแอดเวนเจอร์บอกเลยว่าต้องปักหมุดที่เที่ยวกระบี่ตรงนี้ไว้เลยจ้า เพราะเส้นทางขึ้นไปยังจุดชมวิวบนเขาหงอนนาค ซึ่งมีความยาวประมาณ 3.7 กิโลเมตรนั้นเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติซึ่งเต็มไปด้วยความสมบูรณ์หลากหลาย โดยมีทั้งช่วงที่เดินชมกันได้สบายๆ และช่วงที่ต้องปีนป่ายกันแบบเบาๆ ตลอดเส้นทางมีจุดแวะให้เราชมธรรมชาติกันประมาณ 13 จุดเลยละ มีทั้งน้ำตก หน้าผา บ่อน้ำ และพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่น่าสนใจ แม้ว่าอาจจะต้องออกแรงกันให้เหนื่อยพอประมาณ แต่รับประกันเลยว่าวิวที่จะได้เห็นจากด้านบนนั้นสวยสะใจ ใครชอบการผจญภัย มากระบี่แล้วพลาดไม่ได้เลย

วัน – เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 4.00 – 15.00 น.

ค่าเข้าชม: ฟรี

เกาะเหลาลาดิง

12. เกาะเหลาลาดิง

จะเรียกว่านี่คือหนึ่งในพิกัดลับของที่เที่ยวกระบี่ก็ว่าได้ โดยเกาะนี้อยู่ในการดูแลของอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ที่นี่มีชายหาดเล็กๆ ที่เงียบสงบซ่อนตัวอยู่หลังภูเขาหินปูนซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือนฉากหน้า จะมาเล่นน้ำก็ได้ จะนอนอาบแดดก็ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวเชียวละ หลายคนขนานนามที่นี่ว่าเป็น Paradise Island เลยเชียวนะ ใครอยากไปเช็คอินความสวยของทะเลกระบี่ในรูปแบบที่ค่อนข้างห่างไกลความวุ่นวาย แนะนำให้ปักหมุดไปเช็คอินเกาะนี้ดู

วัน – เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม: ฟรี

เกาะไผ่

13. เกาะไผ่

เกาะไผ่หรือเกาะไม้ไผ่ เป็นเกาะเล็กๆ ของกระบี่ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะพีพีไปแค่ประมาณ 3 กิโลเมตร แต่มีความสมบูรณ์จนบางคนขนานนามให้เป็น ‘ดงปะการังแสนไร่’ เพราะทางด้านใต้ของเกาะนั้นเต็มไปด้วยความสวยของโลกใต้น้ำที่หลากหลายแสนจะตระการตา ในขณะที่บนเกาะก็ยังมีหาดทรายขาวละเอียดตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าสวยใส และด้วยความที่ไม่ใช่จุดเช็คอินหลักขนาดใหญ่ ทำให้เกาะนี้ยังมีบรรยากาศที่ค่อนข้างสงบและเป็นส่วนตัวเลยเชียวละ ใครอยากใกล้ชิดธรรมชาติให้เต็มที่ แนะนำว่ามาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอน

วัน – เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม: ฟรี (อาจมีค่าบริการทัวร์หรือเรือรับส่งเพิ่มเติม)

ท่าปอม คลองสองน้ำ

14. ท่าปอม คลองสองน้ำ

ถ้ามากระบี่แล้วอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากทะเลมาชมความสวยของป่าชายเลนดูบ้างนะ เชื่อว่าที่นี่น่าจะตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ ท่าปอมนั้นเป็นคลองที่มีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร และมีปลายน้ำเชื่อมต่อกับทะเลอันดามัน ความเก๋ของที่นี่ก็คือการเป็นคลองที่มีน้ำสองสี ซึ่งเป็นน้ำจืดและน้ำทะเลที่สลับกันขึ้นลงในบริเวณช่วงปลายคลอง เวลาน้ำทะเลลดลงจะมีน้ำจืดสีฟ้าใสแจ๋วจะไหลอยู่ในคลอง ส่วนช่วงน้ำขึ้นจะมีน้ำทะเลสีเขียวขุ่นกว่ามาแทนที่ ซึ่งจะได้เห็นน้ำในคลองนี้เป็นสีไหนก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เรามานั่นเองจ้า ที่นี่มีมุมสวยๆ เหมือนอยู่ในหนังแฟนซีเพียบเลยนะ ลองแวะมาหาดู

วัน – เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00 – 18.00 น.

ค่าเข้าชม: เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท

เกาะห้อง

15. เกาะห้อง

เกาะห้องนั้นเป็นหมู่เกาะกลางทะเลกระบี่ซึ่งมีหลายเกาะตั้งอยู่รวมกัน โดยมีอีกชื่อเรียกเป็นภาษาถิ่นว่าเกาะเหลาบิเละ โดยเกาะห้องนับเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่สุดของหมู่เกาะนี้ ทีเด็ดของที่นี่คือการเป็นเกาะซึ่งมีหน้าผาสูงชันล้อมรอบทุกด้าน จึงเดินทางเข้าออกได้เพียงเส้นทางเดียวเท่านั้น มาที่นี่จึงสามารถดำน้ำ อาบแดด พายเรือแคนู เดินเล่นในเส้นทางศึกษาธรรมชาติในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวสุดๆ ได้ ใครมองหาที่เที่ยวกระบี่ซึ่งมีบรรยากาศไพรเวทสบายๆ ลองมาชิลล์กันได้ที่เกาะห้องเลย

วัน – เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม: เด็ก 30 บาท / ผู้ใหญ่ 60 บาท

อ่าวท่าเลน

16. อ่าวท่าเลน

สำหรับคนรักกิจกรรมกลางแจ้งทั้งหลาย เชื่อว่านี่คือที่เที่ยวกระบี่ที่น่าจะถูกใจคุณเลยละ อ่าวท่าเลนนั้นเป็นพิกัดพายเรือคายัคที่น่าจะสวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก พื้นที่โดยรอบนั้นเต็มไปด้วยสีเขียวของป่าชายเลนซึ่งมีต้นไม้หนาแน่นสมบูรณ์ มีภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ มีเส้นทางพายเรือสวยๆ ที่ไร้คลื่นลม เพิ่มความสนุกในการพายด้วยเส้นทางที่คดเคี้ยวไปมา มี 2 เส้นทางให้เลือกคือความยาว 4 กิโลเมตร และ 7 กิโลเมตรจ้า ใครชอบการออกกำลังกายแถมยังได้ชมทิวทัศน์สวยๆ ไปด้วยนะ นี่คือที่เที่ยวกระบี่ที่คุณน่าจะถูกใจ

วัน – เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม: ฟรี (ไม่รวมค่าทัวร์พายเรือคายัคชมธรรมชาติ)

ดินแดงดอย

17. ดินแดงดอย

กระบี่นั้นเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความสวยของทะเลและชายหาด แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าที่นี่ก็มีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยไม่แพ้ที่ไหนในเมืองไทยเลยเชียวละ ดินแดงดอยนั้นเป็นจุดชมวิวที่อยู่ในเขตอำเภอเมืองจึงเดินทางง่าย ด้านบนนั้นสามารถชมวิวสวยๆ กันได้แบบ 360 องศา ช่วงเช้าของบางวันที่อากาศเป็นใจ ที่นี่ยังมีทะเลหมอกให้ชมกันได้ด้วยนะ ส่วนการเดินทางก็สะดวกง่ายดาย เพราะเข้าถึงได้ด้วยรถยนต์แล้วเดินต่อแค่ 300 เมตรเท่านั้นจ้า จะแค่แวะมาชมวิวเฉยๆ ก็ได้ หรือถ้าไม่สะใจก็แวะมากางเต็นท์นอนกันได้เลยน้า รับรองว่าชิลล์ทั้งสองแบบเลย

วัน – เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม: คนละ 20 บาท (ไม่รวมค่ากางเต็นท์)

วัดบางโทง

18. วัดบางโทง

จังหวัดกระบี่ไม่ได้มีดีแค่ธรรมชาติสวยๆ เท่านั้นนะ แต่สายบุญที่มากระบี่ก็มีพิกัดเด็ดให้ปักหมุดเช่นกันจ้า วัดนี้มีจุดเด่นที่สถาปัตยกรรมสุดอลังการน่าตื่นตาตื่นใจ มีพื้นที่ทั้งหมดถึงกว่าร้อยไร่ ด้านในมีไฮไลท์เป็นพระมหาธาตุเจดีย์ขนาดใหญ่ความสูงราว 95 เมตรซึ่งโดดเด่นเป็นสง่ามองเห็นได้จากระยะไกล รอบๆ วัดยังมีจุดเด่นอีกหลายแห่งให้ได้แวะชมกัน นี่คืออีกหนึ่งที่เที่ยวกระบี่สุดอลังการที่สายบุญก็มาได้ สายเที่ยวก็น่าจะถูกใจกันแน่นอน

วัน – เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 8.00 – 18.00 น.

ค่าเข้าชม: ฟรี

เขาขนาบน้ำ

19. เขาขนาบน้ำ

ว่ากันว่านี่คืออีกหนึ่งสถานที่ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คของจังหวัดกระบี่ เพราะเป็นภูเขารูปทรงแปลกตาซึ่งตั้งอยู่ในเขตตัวเมืองกันเลยละ เขาขนาบน้ำนั้นเป็นภูเขาสองลูกซึ่งสูงประมาณ 100 เมตร ตั้งอยู่คู่กันบริเวณริมสองฝั่งแม่น้ำกระบี่ จากลานปูดำแลนด์มาร์คเมืองกระบี่ ก็มองเห็นเขาสองลูกนี้ได้ด้วยน้า ถ้าอยากเห็นใกล้ๆ แนะนำให้จอดรถไว้ที่ท่าเรือเจ้าฟ้าแล้วลงเรือต่อมาอีกแค่ 15 นาที ด้านในเขาขนาบน้ำมีถ้ำให้เดินสำรวจกันด้วยจ้า นี่คืออีกซึ่งแหล่งเช็คอินซึ่งมีสภาพแวดล้อมแปลกตา เป็นที่เที่ยวกระบี่อีกแห่งที่ไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง

วัน – เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม: คนละ 30 บาท

เกาะกลาง

20. เกาะกลาง

หากเหมาเรือจากท่าเรือเจ้าฟ้ามาชมเขาขนาบน้ำกันเรียบร้อยแล้วนะ อยากชวนให้นั่งเรือต่อมาอีกนิดก็จะถึงเกาะกลางแล้วจ้า นี่คือเกาะขนาดเล็กซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวพุทธและมุสลิมกลางแม่น้ำกระบี่ บนเกาะมีทั้งนาข้าวสังข์หยด คาเฟ่ โฮมสเตย์ และกลุ่มท่องเที่ยวสไตล์ท้องถิ่นต่างๆ อีกมากมาย แนะนำว่าให้เหมารถพ่วงข้างเดินทางเที่ยวจุดสำคัญรอบเกาะกันไปเลยจ้า ใครชอบกิจกรรม ที่นี่มีให้ทำทั้งเวิร์คช็อปผ้าปาเต๊ะ ผ้ามัดย้อม และทำเรือหัวโทงจำลองด้วยนะ ธรรมชาติก็สวย แถมยังมีร้านอาหารซีฟู้ดอร่อยๆ ให้ชิมกันด้วยจ้า เป็นที่เที่ยวกระบี่ที่มาเที่ยวแบบ One Day Trip ก็ได้ หรือจะมาค้างคืนก็ชิลล์เชียวละ ไม่มาแล้วจะเสียดาย

วัน – เวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม: ฟรี (ไม่รวมค่าเรือข้ามเกาะ และค่ากิจกรรมอื่นๆ)

กระบี่คือจังหวัดที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงามน่าอัศจรรย์ใจ ไม่ว่าจะเป็นทะเล หาดทราย ภูเขา วัดวาอารามและอื่นๆ อีกมากมายเลยเชียวละ จองตั๋วเครื่องบินกระบี่กับ Traveloka Travel & Lifestyle app มาที่นี่ที่เดียวก็จะได้เที่ยวกันแบบครบรสไปเลยจ้า ที่เที่ยวกระบี่แน่นๆ แบบนี้ ก็วางแพลนเที่ยวในสไตล์ #lifeyourway ของคุณได้แบบจุกๆ กันเลยละ มีเวลาเมื่อไหร่ปักหมุดมาเที่ยวกันเลยน้า รับรองจะไม่มีคำว่าผิดหวังอย่างแน่นอน

ข้อมูล traveloka

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Back To Top