เที่ยวทะเล

เที่ยวเมืองกระบี่ (ประวัติจังหวัดกระบี่)

จากหลักฐานทางโบราณคดี สันนิษฐานได้ว่าบริเวณเมืองกระบี่ เคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณที่เก่าแก่แห่งหนึ่งในประเทศไทย ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์
มีผู้ค้นพบเครื่องมือยุคหินและภาพเขียนสีบนผนังถ้ำหลายแห่ง และต่อเนื่องมาจนถึงสมัยประวัติศาสตร์พบว่าแหล่งโบราณคดีคลองท่อมเป็นแหล่งผลิตลูกปัดและเมืองท่าการค้าที่สำคัญ โดยมีการค้นพบโบราณวัตถุประเภทลูกปัดและ เศษภาชนะดินเผาเป็นจำนวนมาก ชุมชนแห่งแรกในกระบี่มีชื่อว่า
“เมืองปกาศัย” ขึ้นกับเมืองนครศรีธรรมราช ในปีพ.ศ. 2415 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้ยกฐานะแขวงเมืองปกาสัย และทรงพระราชทานนามว่า “เมืองกระบี่” และทรงโปรดเกล้าฯให้แยกเมืองกระบี่ออกจากการปกครองของเมืองนครศรีธรรมราช ไปขึ้นกับมณฑลภูเก็ตในปี พ.ศ. 2439 พระยารัษฎานุประดิษฐ์ (คอ ซิบบี้ ณ ระนอง) สมุหเทศาภิบาล มณฑลภูเก็ตได้พิจารณาเห็นว่าสถานที่ตั้งเมืองกระบี่เดิมไกลทะเล ไม่สะดวกต่อการค้าขายทางเรือ จึงย้ายเมืองไปตั้งที่ตำบลปากน้ำ ซึ่งเป็นที่ตั้งศาลากลางของ จังหวัดกระบี่ในปัจจุบัน
กระบี่ เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบด้วยภูเขา ป่าชายเลน น้ำตก อุทยานแห่งชาติทางทะเล ที่มี
หมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 130 เกาะ ล้วนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก รวมถึงรูปแบบกิจกรรมท่องเที่ยวที่หลากหลาย เพื่อตอบรับให้เหมาะสมกับนักท่องเที่ยวได้ทุกกลุ่มวัย เช่น การท่องเที่ยวโดยชุมชน กิจกรรมทางน้ำ กิจกรรม ผจญภัย การปีนเขา ฯลฯ ช่วงที่เหมาะสมแก่การท่องเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-เมษายน และมีกำหนดปิดพื้นที่บางส่วนของอุทยานแห่งชาติ เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ของทุกปีจังหวัดกระบี่แบ่งการปกครองออกเป็น 8 อำเภอ คือ อำเภอเมืองกระบี่, อำเภออ่าวลึก, อำเภอปลายพระยา, อำเภอเขาพนม, อำเภอคลองท่อม, อำเภอเกาะสันตา, อำเภอลำทับ, อำเภอเหนือคลอง

การเดินทางภายในจังหวัดกระบี่

รถสองแถว
สายสีฟ้า เส้นทางอำเภอเหนือคลอง-ท่าอากศยานกระบี่-ห้างสรรพสินค้าโวค-อำเภอเมืองกระบี่
สายสีแดง เส้นทางรอบเมืองกระบี่ (ตลาดเก่า-สถานีขนส่งผู้โดยสารกระบี่)
สายสีขาว เส้นทางสถานีขนส่งผู้โดยสารกระบี่-ห้างสรรพสินค้าโวค-หาดนพรัตน์ธารา-หาดอ่าวนาง-สุสานหอย

สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอเมืองกระบี่

เขาขนาบน้ำ

สัญลักษณ์ของเมืองกระบี่ เป็นเขาสองลูกตั้งตระหง่านด้านหน้าตัวเมือง สูงประมาณ 10 เมตร ขนาบแม่น้ำกระบี่ บริเวณเขาขนาบน้ำมีบันไดขึ้นไปยังถ้ำ ภายในมีหินงอกหินย้อย โครงกระดูกมนุษย์โบราณจำนวนมากที่ถูกค้นพบ สันนิษฐานว่า อาจเป็นโครงกระดูกของกลุ่มคนที่อพยพมาตั้งหลัก แหล่งแต่เสียชีวิตลงเนื่องจากเกิดอุทกภัยอย่างฉับพลัน นอกจากนี้ยังมีมุมจำลองแหล่งพักพิงของทหารญี่ปุ่นในอดีต สามารถเที่ยวชมได้โดยเช่าเรือหางยาวที่ท่าเรือเจ้าฟ้า (บริเวณลานปูดำ) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที

ถนนคนเดินกระบี่

ถนนมหาราช ซอย ๘ ด้านซ้ายมือเป็นห้างสรรพสินค้าโวค เป็นแหล่งรวมสินค้าท้องถิ่นอาหารพื้นเมือง แหล่งบันเทิงทางวัฒนธรรม กิจกรรมเยาวชนและอื่น ๆ ที่หลากหลาย ถนนคนเดินกระบี่เปิดบริการ ทุกวันศุกร์ เสาร์ และ อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น.

สตรีทอาร์ต กระบี่

เป็นโครงการถนนศิลปะเมืองกระบี่ โดยเริ่มตามนโยบายของจังหวัดกระบี่ เพื่อเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและกระจายรายได้ให้ชุมชน สะท้อนถึงแนวคิดหลัก 3 ด้านคือ ธรรมชาติที่สมบูรณ์ วัฒนธรรมท้องถิ่นและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ภาพวาดกระจายทั่วเมืองกระบี่ทั้ง 9 จุด ได้แก่ ภาพชาวบ้านกระบี่ บริเวณโรงแรมซิตี้, ภาพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่9) และช้างเผือกคู่พระบารมี บริเวณธนาคารธนชาติ, ภาพมโนราห์ บริเวณ ซอยมหาราช 6 เป็นต้น

ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมอันดามัน

ถนนมหาราช ตำบลปากน้ำ จัดตั้งโดยเทศบาลเมืองกระบี่ ด้วยเล็งเห็นถึงคุณค่ าด้ านประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมของจังหวัดกระบี่และกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันประกอบด้วย จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรังและสตูล เพื่อเชื่อมโยงเรื่องราวความเป็นมาจากครั้งอดีตสู่ปัจจุบัน นำเสนอในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ที่ประกอบด้วย อาคารพิพิธภัณฑ์ลูกปัดอันดามัน อาคารสาธิตการผลิตลูกปัดอันดามัน หอศิลป์อันดามัน อาคารแสดงนิทรรศการหมุนเวียนและโรงเรียนต้นกล้าอันดามัน สอบถามข้อมูล โทร. 075-261-359, 083-426-7394

วัดแก้วโกรวาราม

วัดแก้วโกรวาราม

ถนนอิศรา ตำบลปากน้ำ เป็นวัดประจำจังหวัด มีความสำคัญด้านความเป็นศูนย์กลางของการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรม-บาลี ของคณะสงฆ์ บริเวณวัดมีพระอุโบสถและศาลารายสีขาวทั้งหลัง ซึ่งออกแบบโดย ดร..ภิญโญ สุวรรณคีรี(ศิลปินแห่งชาติ) ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประทานและมีจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา .04.00-18.30 น.

ชุมชนเกาะกลาง

ตำบลคลองประสงค์ เกาะเล็ก ๆตั้งอยู่กลางแม่น้ำกระบี่ ล้อมรอบด้วยปาชายเลนบริเวณปากแม่น้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยเสน่ห์ของวิถีชุมชนที่เรียบง่ายและยังคงรักษาเอกลักษณ์ท้องถิ่นไว้ได้อย่างดี ภายในเกาะจะเป็นชุมชนชาวมุสลิมอาศัยอยู่อย่างเงียบสงบและเรียบง่าย มีกลุ่มท่องเที่ยวและกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ กลุ่มเกษตรอินทรีย์ การทำนาข้าวสังข์หยด กลุ่มสาธิตการทำเรือหัวโทงจำลอง กลุ่มการทำผ้าบาติก เป็นต้น นอกจากนี้ชุมชนมีที่พักโฮมสเตย์ให้บริการเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตชุมชน

 

อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี

ครอบคลุมพื้นที่ ๔ ตำบล ได้แก่ ตำบลหนองทะเลตำบลส่ไทยตำบลอ่าวนาง และตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ มีพื้นที่ทั้งหมด 388 ตารางกิโลเมตร
(242,437 ไร่) เป็นพื้นที่อุทยานทางทะเลและเกาะประมาณ 321.36 ตารางกิโลเมตร (200,849 ไร่) มีป่าไม้ 3 ประเภท คือ ป่าดงดิบชื้น พบเห็นได้บริเวณเขาสูงชันบริเวณเขาหางนาค เขาอ่าวนาง ป่าชายเลนจะพบบริเวณคลองแห้ง ใกล้ที่ทำการอุทยานฯ คลองย่านสะข้า และด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณสฺสานหอย และป้าพรุ ที่พบต้นเสม็ดขึ้นอยู่ อย่างสมบูรณ์ มีสัตว์ต่าง ๆ ที่พบในอุทยานฯ ได้แก่ นกโจรสลัด เหยี่ยวแดง นกออก นกนางแอ่นกินรัง
หมูป่า ลิง และค่าง สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสม สำหรับการท่องเที่ยว คือเดือนพฤศจิกายน-เดือนเมษายน อัตราค่าบริการเข้าอุทยานฯ คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท อุทยานฯ มีบ้านพักรวมถึงจุดกางเต็นท์ บริการนักท่องเที่ยว สอบถามข้อมูล อุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี  www.dnp.go.th

หาดนพรัตน์ธารา

สถานที่ท่องเที่ยวภายในเขตอุทยานฯ ได้แก่

หาดนพรัตน์ธารา มีความยาว กิโลเมตร เดิมชาวบ้านเรียกว่า “หาดคลองแห้ง” ทั้งนี้เพราะเมื่อน้ำลง น้ำคลอง
ที่ไหลมาจากภูเขาทางด้านเหนือ จะแห้งขอดกลายเป็นหาดทรายยาวเหยียดทอดลงไปในทะเล บรรจบกับเกาะเขาปากคลอง บริเวณหาดเป็นทรายละเอียด
ปะปนด้วยเปลือกหอยเล็ก ๆ ประดับด้วยทิวสนเรียงรายตามชายทะเลยาวเหยียด บริเวณชายหาดมีที่ทำการอุทยาน ฯ ตั้งอยู่ จากที่ทำการอุทยานฯ ไป
ตามชายหาดด้านทิศตะวันตก มีรีสอร์ทหลายแห่งให้บริการนักท่องเที่ยว ชายหาดบริเวณนี้ค่อนข้างเงียบสงบ

อ่าวนาง เป็นชายหาดที่ยอดนิยมของจังหวัดกระบี่ เนื่องจากเป็นแหล่งรวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย เช่น รีสอร์ท ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกและบริษัทนำเที่ยวให้บริการหลายแห่งบรรยากาศโดยรอบแปลกตาด้วยภูเขาหินปูนตั้งตระหง่าน เป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยงาม บริเวณอ่าวนางเป็นจุดขึ้นเรือไปเที่ยวยังเกาะบริเวณใกล้เคียงรวมทั้งหาดไร่เลย์ได้

หาดไร่เลย์ เป็นหาดที่โดดเด่นด้วยลักษณะที่สวยงามด้วยหน้าผาทิวเขาหินปูน ชายหาดของไร่เลย์มี 2 ฝั่ง ได้แก่ หาดไร่เลย์ตะวันตก (หาดน้ำเมา) เป็นที่ตั้งของถ้ำพระนาง ซึ่งภายในมีศาลพระนางที่ชาวเรือแถบนี้คารพสักการะ และเหมาะสำหรับชมทัศนียภาพของพระอาทิตย์ตก หาดไร่เลย์ตะวันออก มีกิจกรรมที่มีชื่อเสียงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ คือ การปีนผา เนื่องจากด้านปลายหาดมีผาหินปูนที่มีความสูงเหมาะสำหรับการปีนผา บริเวณหาดทั้งสองฝั่งมีที่พักและบริษัทที่ให้บริการปีนผาตั้งอยู่

หมู่เกาะปอดะ อยู่ทางทิศใต้ของอ่าวนาง ห่างจากฝั่ง 8 กิโลเมตร เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาว น้ำทะเลใสบริเวณชายฝั่งของเกาะจะมองเห็นแนวปะการังหลากชนิดที่ยังสมบูรณ์ จึงเป็นแหล่งดึงดูดของนักท่องเที่ยวให้เที่ยวชมได้เกือบตลอดปี สามารถเช่าเรือได้จากบริเวณอ่าวนางหรือบริษัทนำเที่ยว มีบริการนำเที่ยว

4 เกาะแบบวันเดย์ทัวร์หรือแบบครึ่งวัน ได้แก่ ทะเลแหวก เกาะทับ เกาะไก่ เกาะปอดะ อ่าวไร่เลย์ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที สอบถามข้อมูล สหกรณ์
เรือหางยาวตำบลอ่าวนาง

เกาะไก่ หรือ เกาะปอดะนอก ลักษณะของเกาะเป็นภูเขาหินปูน ชื่อของเกาะมาจากรูปทรงของภูเขา ซึ่งเกิดจากอิทธิพลของลมและฝน ที่กัดกร่อนทำให้เกิดเป็นรูปหัวไก่ บริเวณรอบเกาะสามารถเล่นน้ำและดำน้ำชมปะการังน้ำตื้นทะเลแหวก ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับเกาะปอดะ เป็นปรากฏ การณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเมื่อระดับน้ำทะเลลดลงที่สุดในแต่ละวัน เสมือนทะเลแหวกออก

ทะเลแหวก ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับเกาะปอดะ เป็นปรากฏการณ์ท างธรรมชาติที่เกิดขึ้นเมื่อระดับน้ำทะเลลดลงที่สุดในแต่ละวัน เสมือนทะเลแหวกออก จนกลายเป็นสันทรายสีขาวสะอาด เชื่อมเกาะทั้งสามเกาะ ได้แก่ เกาะทัพ เกาะหม้อ และเกาะไก่โดยเฉพาะในช่วง 5 วัน ของก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ฤดูกาลท่องเที่ยวคือเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี

หมู่เกาะพีพี เป็นหมู่เกาะกลางทะเล เดิมชาวทะเลเรียกหมู่เกาะนี้ว่า “ปู่เลาปีอาปิ” คำว่า “ปูเลา” แปลว่าเกาะ คำว่า “ปีอาปี ” แปลว่าต้นไม้ทะเลจำพวกแสม และโกงกาง ต่อมาเรียกว่า “ต้นปีปี” ซึ่งภายหลังกลายเสียงเป็น “พีพี” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรแห่งบุปผาใต้สมุทร นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหมู่เกาะนี้ส่วนใหญ่มาเพื่อดำน้ำดูปะการังดอกไม้ทะเล และปลาหลากสีสันที่สวยงาม หมู่เกาะพีพีประกอบด้วย

เกาะไก่ หรือ เกาะปอดะนอก

เกาะ 6 เกาะ คือ เกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะนอก และเกาะบิดะใน ซึ่งแต่ละ เกาะมีหาดทรายสวย น้ำทะเลใส สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของหมู่เกาะพีพี เกาะพีพี่ดอน มีพื้นที่ ๒๘ ตารางกิโลเมตร จุดเด่น ของเกาะคือ เวิ้งอ่าวคู่ที่มีความสวยงามติดอันดั่บโลก ของอ่าวต้นไทรและอ่าวโละดาลัม อ่าวต้นไทรเป็น ที่ตั้งของท่าเรือเกาะพีพี มีที่พักและร้านค้าให้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก จากอ่าวต้นไทรสามารถเดินขึ้นเขาไปยังจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเวิ้งอ่าวคู่ได้ เกาะพีพีดอนยังมีหาดทรายและอ่าวที่สวยงาม กระจายอยู่รอบเกาะ ได้แก่ อ่าวโละบาเกา เป็นชายหาดที่สวยที่สุดบนเกาะ มีต้นมะพร้าวเรียงรายตามชายหาด อ่าวรันตี เหมาะสำหรับการดำน้ำ ชมปะการัง อ่าววังหลง เป็นอ่าวเล็ก ๆ เงียบสงบ โอบล้อมด้วยผาหิน ส่วนทางเหนือของเกาะคือ แหลมตง เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเล ส่วนใหญ่อพยพมาจากเกาะหลีเปีะ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล บริเวณแหลมตงมีธรรมชาติใต้ทะเลที่สวยงามและบนหาดมีที่พักให้บริการแก่นักท่องเที่ยว จากเกาะพีพีดอนสามารถเดินทางไปดำน้ำ ดูปะการังยังเกาะพีพีเลและเกาะอื่น ใกล้เคียง โดยสามารถติดต่อบริษัท นำเที่ยวแบบทั้งวัน-ครึ่งวัน หรือเช่าเหมาเรือหางยาว ได้ที่บริเวณท่าเรืออ่าวต้นไทร.

เกาะพีพี

เกาะพีพีเล มีพื้นที่เพียง 6.6 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะที่เต็มไปด้วยภูเขาหินปูน มีหน้าผาสูงชันตั้งฉากกับผิวทะเลโดยรอบเกือบทั้งเกาะ มีบริเวณน้ำ
ลึกที่สุด 34 เมตรอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ บนเกาะไม่มีที่พัก ยังคงมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติ เกาะแห่งนี้มีเวิ้งอ่าวสวยงามและมีชื่อเสียงได้แก่ อ่าวปิเละหรือ ลากูน เป็นเวิ้งอ่าวขนาดใหญ่ มีช่องเขาเป็นทางเข้า ล้อมรอบด้วยเขาหินปูนคล้ายห้องโถง น้ำทะเลสีเขียวมรกต *อ่าวมาหยา เป็นอ่าวที่มีชื่อเสียงของเกาพีพีเล ล้อมรอบด้วยภูเขา มีชายหาดเม็ดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีเขียวมรกต อ่าวโละซามะ เป็นจุดดำน้ำที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะพีพีเล มีกอง
หินแนวปะการัง ดอกไม้ทะเลหลากสี รวมถึงฝูงปลาจำนวนมาก นอกจากนี้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือยังมีถ้ำไวกิ้ง เมื่อปี พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จ
พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9)

จุดชมวิวเกาะพีพีดอน

เสด็จประพาสถ้ำแห่งนี้ และทรงพระราชทานนามใหม่ว่า “ถ้ำพญานาค” ตามรูปร่างหินก้อนหนึ่งที่คล้ายเศียรพญานาค ภายในถ้ำพบภาพเขียนสีสมัย
ประวัติศาสตร์ เป็นรูปช้างและรูปเรือชนิดต่างๆ เช่นเรือใบยุโรป เรือใบอาหรับ เรือสำเภา เรือกำปั่น เรือใบใช้กังหัน และเรือกลไฟ เป็นต้น สันนิษฐานว่า
ภาพเขียนเหล่านี้มาจากนักเดินเรือ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดินเรือหรือจุดที่เรือสามารถแวะพักหลบลมมสุมขนถ่ายสินค้าหรือซ่อมแชมเรือ ปัจจุบันเป็นพื้นที่สัมปทานรังนก ไม่สามารถเข้าไปภายในถ้ำแต่สามารถล่องเรือชมทิวทัศน์ด้านหน้าถ้ำได้ *ปี 2512 อ่าวมาหยา ปิดการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติและระบบนิเวศ

เกาะไม้ไผ่

เกาะไม้ไผ่ อยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอนห่างจากเกาะพีพีดอนประมาณ ๓ กิโลเมตร ด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกมีหาดทรายสวยงาม น้ำทะเลใสเป็นสีเขียวมรกต และแนวปะการังซึ่งส่วนมากเป็นแนวปะการังเขากวางทอดยาวไปถึงทางทิศใต้ของเกาะ บนเกาะมีสถานที่กางเต็นท์ของทางอุทยาน ฯ
ให้บริการ

เกาะยูง อยู่ทางตอนเหนือของเกาะพี่พี่ดอน มีชายหาดเป็นหาดหินอยู่ทางด้านทิศตะวันออก และมีหาดทรายเล็กน้อยตามหลืบเขา นอกจากนี้ยังมีแนวปะการังสวยงามชนิดต่าง ๆ ที่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์

สุสานหอยแหลมโพธิ์ หรือ สุสานหอยเจ็ดสิบห้าล้านปี อยู่บริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ ลักษณะเป็นชั้นแผ่นหินปูน มีความหนาตั้งแต่ ๑.๕0-๑ เมตรแต่ละแผ่นหินมีซากของหอยกาบเดี่ยว (Gastropod) จำพวกหอยขมน้ำจืด (Viviparus) ทับถมซ้อนกันเป็นชั้น ๆ สุสานหอยแหลมโพธิ์นี้มีชื่อเรียกกันแต่เดิมว่าสุสานหอยเจ็ดสิบห้าล้านปี เนื่องจากข้อมูลซากหอยที่สุสานหอยแหลมโพธิ์มีอายุยุคเทอร์เชียรี่ ซึ่งในสมัยโบราณช่วงอายุของยุคเทอร์เชียรีที่แก่ที่สุดประมาณ 70 ล้านปี ปัจจุบันมีการกำหนดอายุหินเพื่อคำนวณหาอายุทางธรณีวิทยาของสุสานหอย โดยศึกษาซากพืชโบราณและพบว่ามีอายุอยู่ระหว่าง 40-20 ล้านปี การเดินทาง ห่างจากอ่าวนางประมาณ 8 กิโลเมตรใช้ทางหลวงหมายเลข 4203 ทางไปบ้านไสไทย จากนั้นใช้เส้นทางหมายเลข 4204 (กระบี่-สุสานหอย) จะมีป้ายบอกทางไปสุสานหอย

สุสานหอยแหลมโพธิ์ หรือ สุสานหอยเจ็ดสิบห้าล้านปี

เขาหงอนนาค เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พพ.4 (ทับแขก) ตำบลหนองทะเล เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานฯ พื้นที่เป็นภูเขาที่สมบูรณ์ด้วยป่าไม้และสัตว์ป่า มีส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 3.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง พร้อมฐานต่าง ๆ ให้ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ
ทั้งหมด 13 ฐาน จุดชมวิวหงอนนาค ลักษณะเป็นชะง่อนผาที่ยื่นออกไปจากยอดเขา สามารถมองเห็นทัศนียภาพภูเขาหินปูนและท้องทะเลกระบี่ได้โดยรอบ ฤดูการที่เหมาะสมกับท่องเที่ยวคือ ช่วง เดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่

เขาหงอนนาค

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Back To Top