ลุ่มน้ำโขง
เที่ยวป่า ขึ้นเขา ธรรมชาติ เที่ยววัดไทย-ไหว้พระ

ขึ้นเหนือเลาะน้ำโขง ถ้าไม่ไปที่เที่ยวนี้ ถือว่าพลาด!! (ไปไม่ถึงภาคเหนือ)

ภาคเหนือประกอบด้วยพื้นที่ 17 จังหวัดได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ตาก อุทัยธานี สุโขทัย กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ ลำปาง ลำพูน นครสวรรค์ และพิจิตร

มีลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นทิวเขาและที่ราบหุบเขาสลับกันเป็นแนวยาวขนานกันทิวเขาจะทอดตัวในแนว เหนือ-ใต้ทิวเขาที่สำคัญได้แก่ ทิวเขา แดนลาวอยู่ทางเหนือสุดของภาค ติดกับประเทศพม่า ทิวเขาถนนธงชัยอยู่ทางตะวันตกของภาค ทิวเขาผีปั้นน้ำอยู่ทางตอนกลางของภาคและทิวเขาหลวงพระบางอยู่ทางตะวันออกของภาคติดกับประเทศลาวซึ่งมีความสูงมากกว่าภาคอื่นๆ ของประเทศไทยมีพื้นที่เป็นภูเขามากกว่าที่ราบประมาณ 4 : 1 (ภูเขาประมาณร้อยละ 78 ของพื้นที่ทั้งหมด)

ทิวเขาผีปั้นน้ำ

แม่น้ำสำคัญในภาคเหนือ

  1. กลุ่มแม่น้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขงได้แด้แก่ แม่น้ำรวก แม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำอิงในเขตจังหวัดเชียงราย
  2. กลุ่มแม่น้ำที่ไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่แม่น้ำปิงจังหวัดเชียงใหม่ แม่น้ำวังจังหวัดลำปาง แม่น้ำยมจังหวัดพะเยา แม่น้ำน่านจังหวัดน่านไหลบรรจบกันที่จังหวัดนครสวรรค์
  3. กลุ่มแม่น้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำสาละวิน ได้แก่ แม่น้ำเมย แม่น้ำยวม แม่น้ำปาปายในเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน
  4. แม่น้ำโขง ที่ไหลมาจากประเทศจีนเป็นพรมแดนระหว่างประเทศไทย และประเทศลาวในช่วงจังหวัดเชียงราย
แม่น้ำสาย เดิมเรียกว่า แม่น้ำละว้า

แม่น้ำโขง มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาหิมาลัยบนที่ราบสูงทิเบตในผืนแผ่นดินจีน ไหลเลี้ยวเลาะไหล่เขาลงใต้มาด้วยระยะทางไกลกว่า 4,900 กิโลเมตร จากประเทศจีน ผ่านเมียนมาไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ก่อนไหลสู่ทะเลจีนใต้ เป็นแม่น้ำนานาชาติสายสำคัญที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดสายหลักหล่อเลี้ยงทุกสรรพสิ่งทั้งธรรมชาติและผู้คน ประชาชนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีชีวิตผูกพันกับแม่น้ำโขง ที่เป็นทั้งแหล่งอาหารที่สำคัญ เป็นแหล่งน้ำใช้เพื่อการเกษตร การเดินทาง การขนส่งและอีกมากมายหลายกิจกรรมในชีวิตประจำวันของผู้คนในถิ่นนี้ แม่น้ำโขงจึงเป็น มหานที่แห่งชีวิต ของผู้คนในลุ่มน้ำโขง

ลุ่มน้ำโขง
ภาพจาก themomentum.co

แม่น้ำโขงไหลผ่านจีน ลาว มากว่า2,000 กิโลเมตร ก่อนจะมาถึงประเทศไทย ณ สบรวก สามเหลี่ยมทองคำ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย และไหลไปทางทิศตะวันออกผ่านอำเภอเชียงของก่อนไหลเข้า สปป.ลาวที่แก่งผาไตคำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงรายรวมความยาวช่วงที่แม่น้ำโขงไหลเป็นพรมแดนไทย-ลาวที่จังหวัดเชียงรายเป็นระยะทางประมาณ 85 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางของแม่น้ำโขงมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลากหลายรูปแบบ ทั้งธรรมชาติที่สวยงาม จุดชมวิวตระการตาประเพณีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตผู้คนเฉพาะถิ่น รวมทั้งเรื่องราวประวัติศาสตร์ อยากให้มาเยือนดินแดนแห่งแม่น้ำโขงแล้วคุณจะหลงรัก

10 พิกัดที่เที่ยวภาคเหนือ ขับรถเลาะเที่ยวไปได้เลย

The Hall of Opium at the Golden Triangle Park, Chiang Rai
  1. หอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ อำเภอเชียงแสน

    เป็นศูนย์นิทรรศการแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับฝิ่นอย่างรอบด้านทุกแง่มุม เริ่มตั้งแต่การเรียนรู้เรื่องราวธรรมชาติวิทยาของฝิ่น ประวัติการใช้ฝิ่นตั้งแต่ในยุคโบราณการแพร่กระจายของฝิ่นจากการค้าสมัยจักรวรรดินิยมที่ชาวตะวันตกนำเข้ามาสู่เอเชียจนเกิดสงครามฝิ่น การเข้ามาของฝิ่นในประเทศไทย การควบคุมปัญหาฝิ่นยาเสพติดที่เริ่มใกล้ชิดกับชีวิตประจำวันรวมไปถึงผลกระทบที่เลวร้ายของยาเสพติด มาตรการควบคุมและปราบปรามยาเสพติด และมีเรื่องราวกรณีศึกษาเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดในครอบครัวโดยนำเสนอทางเลือกโอกาสที่จะต่อสู้กับความเย้ายวนจากยาเสพติดหอฝิ่นนำเสนอนิทรรศการเหล่านี้ผ่านมัลติมีเดียหลายรูปแบบที่สร้างความน่าสนใจแก่ผู้เข้าชม เปิดทำการวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 8.30-16.00 น. อัตรา
    ค่าเข้าชม คนไทย 150 บาท คน ต่างชาติ200 บาท ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและเด็กอายุ 12-18 ปี 50 บาท

  2. สามเหลี่ยมทองคำ อำเภอเชียงแสน

    ดินแดนรอยต่อ 3 ประเทศ จังหวัดเชียงรายประเทศไทย แขวงบ่อแก้ว สาวและท่าขี้เหล็ก รัฐฉานเมียนมา(พม่า)เป็นบริเวณที่แม่น้ำโขงและแม่น้ำรวกมาบรรจบกันที่เรียกว่า “สบรวก” เป็นพรมแดนกั้นระหว่างประเทศไทย ลาว เมียนมา เคยขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งการปลูกฝิ่นเพื่อใช้ในการผลิตยาเสพติดและยังเป็นต้นทางสำคัญในการส่งออกไปทั่วโลก แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันมากเรื่องราวชวนค้นหาตำนานของสามเหลี่ยมทองคำและทิวทัศน์อันสวยงามเงียบสงบของลำน้ำและเขตแดนของสามประเทศมีพระเชียงแสนสี่แผ่นดิน หรือพระพุทธนวล้านตื้อ ประดิษฐานโดดเด่นอยู่ริมน้ำฝั่งไทย นอกจากการมาท่องเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ของสามเหลี่ยมทองคำบนบกแล้วมีกิจกรรมที่พลาดไม่ได้คือการล่องเรือชมทิวทัศน์ในอีกมุมมอง

  3. วัดพระธาตุจอมกิตติ อ.เชียงแสน

    ตั้งอยู่บนดอยน้อย เป็นปูชนียสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองเชียงแสน สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าพังคราชเพื่อใช้บรรจุพระบรมสารีวิกธาตุเป็นเจดีย์ย่อเหลี่ยมไม้สิบสองสมัยเชียงแสน ได้รับการบูรณะในสมัยของหมื่นเชียงสง พ.ศ.2030 โดยการสร้างเจดีย์ครอบทับองค์เดิม และมีการบูรณะปฏิสังขรณ์พระธาตุขึ้นใหม่อีกครั้งในราวปี พ.ศ.2237 ซึ่งคงปรากฏรูปแบบทางสถาปัตยกรรมอย่างที่เห็นในปัจจุบันคือ เป็นสิลปกรรมร่วมสมัยระหว่างล้านนากับศิลปะอยุธยาตอนปลาย พระกาตุจคมกิตติถูกจัดให้เป็น 1ในพระธาตุ 9 จอมพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดเชียงราย นอกจากนั้นบริเวณวัดยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม มคงเห็นตัวเมืองเชียงแสนและแนวกำแพงเมืองทอดยาวตั้งแต่เหนือจดใต้รวมถึงแม่น้ำโขงด้วย

  4. เมืองโบราณเชียงแสน

    เชียงแสนเป็นเมืองเก่าที่มีเรื่องราวในอดีตมายาวนานก่อนจะมีอาณาจักรล้านนาย้อนกลับไปกว่า 2,000 ปี ในชื่อแคว้นโยนกนาดพันธุ์ (บางพงสาวดารก็ใช้ชื่อโยนกเชียงแสน) ปัจจุบันตือทะเลสาบเชียงแสนคาดว่าเมืองถูกแผ่นดินไหวจึงล่มสลายลง ต่อมาเกิดมีแคว้นหิรัญนครเงินยาง ซึ่งเป็นถิ่นประสูติของพญามังรายมหาราชประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงแสนนั้นมีมายาวนาน มีตำนานและพงสาวดารมากนายที่กล่าวถึง แต่ที่มีปรากฏหลักฐานในปัจจุบัน คือซากกำแพงเมืองราณสถานหลายแห่งซึ่งส่วนมากเป็นวัดร้าง ที่สร้างในระหว่างพุทธสตวรรรษที่ 18-21 การเที่ยวชมควรเริ่มต้นจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน และโบราณสถานต่างๆในรัศมีไม่เกิน1.5 กิโลเมตร โบราณสถานที่สำคัญ คือกำแพงเมือง วัดพระธาตุเจดีย์หลวงวัดป่าสัก วัดมุงเมือง

  5. วัดพระธาตุผาเงา เชียงแสน

    ตั้งอยู่บนเนินเขาดอยคำ สันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยโยนกนครกว่า 1,000ปีมาแล้ว จากการเสื่อมลงของอาณาจักรจึงถูกปล่อยทิ้งร้างนานมาก เพิ่งมีการบูรณะขึ้นมาใหม่เมื่อกว่า 50 ปีมานี้เองในกาณาบริเวณรอยตำเป็นที่ตั้งของพระธาตุโบราณที่สำคัญถึง 3 องค์ด้วยกัน เนินเขาด้านล่างเป็นที่ตั้งของพระธาตุผาเงาที่สร้างไว้บนก้อนหินใหญ่ ถัดจากนั้นสูงขึ้นไปจะเป็นซากเจดีย์สูง ชาวบ้านเรียกว่าพระธาตุจอมจัน ส่วนที่สูงสุดของเนินเป็นที่ตั้งของชากเจดีย์อีกองค์ ชาวบ้านเรียกว่าพระธาตุเจ็ดยอด ต่อมาได้มีการสร้างพระพุทธนิมิตเจดีย์ครอบคงค์พระธาตุเจดีย์ไว้ นอกจากนั้นยังขุดพบพระพุทธรูปอีก 2 องค์ ปัจจุบันวัดได้รับการบูรณะและสร้างศาสนสถานต่างๆ อย่างสวยงามด้วยศิลปะล้านนา และด้านบนของวัดยังเป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่สวยงาม

  6. แวะชุมวิวบนเส้นทางแม่น้ำโขง เชียงแสน-เชียงของ

    บนทางหลวงหมายเลข 1129 ในช่วงขากอำเภอเชียงแสนไปอำเภอเชียงของ เป็นเส้นทางที่สวยงามเลาะเลียบแม่น้ำโขงผ่านพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้านทิวเขา ท้องทุ่ง บางช่วงที่เป็นถนนขึ้นลงเขาที่อยู่ริมน้ำจะมองเห็นแม่น้ำโขงและเกาะแก่งเป็นสายยาวสุดตาโดยมีเทือกเขาฝั่งลาวเป็นฉากหลัง ระหว่างเส้นทางที่วิ่งเลาะริมแม่น้ำโขงจะมีศาลาจุดชมวิวและมีพื้นที่จอตรถเพื่อที่จะได้จอดเพื่อพักรถและชมวิวแม่น้ำโชง มีจุดชมวิวสวยๆ หลายจุด ถึงแม้ไม่จอดแค่เพียงนั่งรถชมวิวก็สวยแล้ว ที่น่าสนใจคือจุดชมวิวหัวยทรายมาน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของวนอุทยานห้วยทรายมาน มีพื้นที่ให้กางเต็นท์พักแรมได้

  7. บ้านหาดบ้าย เชียงของ

    เป็นหมู่บ้านชาวไทลื้อที่ตั้งอยู่ริมน้ำโขงในอำเภอเชียงของ บรรพบุรุษของชาวบ้านที่นี่ ได้อพยพมาจากแคว้นสิบสองปันนาทางตอนใต้ของจีน หมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ยังคงมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ผู้คนมีอัธยาศัยไมตรี ยินดีต้อนรับผู้มาเยือน ทั้งยังคงสืบทอดศิลปวัฒนธรรมของชาวไทลื้อกันมาอย่างต่อเนื่องจากรุ่นสู่รุ่น โดยเฉพาะการทอผ้าไทลื้อที่ใช้สีธรรมชาติ ลวดลายงดงามมีเอกลักษณ์ อย่างผ้าทอลายน้ำไหล ซึ่งกลายเป็นของฝากที่ขึ้นชื่อของหมู่บ้าน นอกจากนั้นบ้านหาดบ้ายซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านดอยแดง เมืองต้นผึ้งแขวงบ่อแก้วของลาว ยังได้รับการประกาศให้เป็นจุดผ่อนปรนไทย-ลาว จะเปิดจุดผ่อนปรน ทุกวันพฤหัสกับวันศุกร์ เวลา 09.00 – 15.00 น.

  8. จุดเช็คอิน สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่4 เชียงของ

    เป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมต่อประเทศไทยที่บ้านดอนมหาวัน ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงรายกับประเทศลาวที่บ้านดอน เมืองหัวยทรายแขวงบ่อแก้ว มีการก่อสร้างด่านตรวจคนเข้าเมืองด้วยสถาปัตยกรรมล้านช้างเป็นการเชื่อมต่อกับเส้นทาง R3A ที่เชื่อมต่อระหว่าง จีน ลาวไทย สามารถเดินทางไปได้ถึงเมืองคุนหมิง มณฑลยูนานของประเทศจีน สะพานแห่งนี้นอกจากจะเชื่อมต่อดินแดนระหว่างประเทศแล้วยังเชื่อมต่อเศรษฐกิจการค้า การลงทุนการท่องเที่ยวและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของทั้ง 3 ประเทศด้วย

  9. พิพิธภัณฑ์ลื้อลายคำ เชียงของ

    ตั้งอยู่ที่ตำบลศรีดอนชัยซึ่งเป็นตำบลที่มีชาวไทลื้ออพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่พิพิธภัณฑ์ลื้อลายคำเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านที่ก่อตั้งโดยลูกหลานชาวไทลี้อเพื่อเก็บรักษาผ้าทอไทลื้อไว้สืบทอดให้เป็นมรดกของลูกหลานสืบไป มีการจัดแสดงประวัติความเป็นมาของชาวไทลื้อ ประวัติของผ้าทอไทลิ้อ รวบรวมลวดลายต่างของผ้าทอไทลื้อไว้มากมาย ตลอดจนวัฒนธรรมต่าง ๆ ของชาวไทลี้อ ในบริเวณพิพิธภัณฑ์ยังมีร้านกาแฟที่บรรยากาศดีสามารถนั่งชมวิวทุ่งนาและสะพานไม้ไปพร้อมกับการจิบกาแฟได้ นอกจากนั้นถ้ามาเป็นหมู่คณะและอยากชมวัฒนธรรมการแสดงต่างๆ ของชาวไทลื้อและชิมอาหารท้องถิ่น โดยการจัดเป็นกาดมั่ว

    แกงผาได เวียงแก่น
    Kaeng Pha Dai, Chiang Rai
    รูปภาพ: Tourism Authority of Thailand
  10. แกงผาได เวียงแก่น

    แก่งหินกลางลำน้ำโขงที่อำเภอเวียงแก่นเป็นจุดสุดท้ายที่แม่น้ำโขงไหลผ่านประเทสไทยในภาคเหนือ ก่อนจะไหลเข้าลาวแล้ววกกลับมาไทยอีกครั้งที่จังหวัดเลย ณ บริเวณนี้จึงเป็นเหมือนจุดอำลาแม่น้ำโขง ในช่วงหน้าแล้งที่น้ำในแม่น้ำโขงลดระดับจะพบเห็นแก่งหินและหาดทรายโผล่พ้นน้ำ มีต้นไตร้หางนาดขึ้นอยู่โดยทั่วไป บนเนินเขาริมแก่งได้จัดพื้นที่เป็นสวนสาธารณะปลูกไม้ประดับไว้อย่างสวยงามและมีศาลาให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจพร้อมชมวิวเกาะแก่งและแม่น้ำโขง พร้อมลานกางเต็นท์พักแรม

กิจกรรมที่มีสำหรับทริปนี้

  1. ลองเรือเที่ยวชมแม่น้ำโขง

    บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ และชมวิวฝั่งประเทศพม่า ขึ้นเกาะดอนชาวของ สปป.ลาว ระยะเวลาล่องเรือประมาณ 20 นาที รวมเวลขึ้นเกาะดอนซาวประมาณ 1.30-2ชั่วโมง

  2. ลองเรือชมวิวทิวทัศน์เชียงแสน – เชียงของ

  3. ซื้อของฝาก ผ้าทอไทลื้อ

    ผ้าทอของชาวไทลื้อนั้นเป็นผ้าทอที่ใช้สีย้อมจากธรรมชาติ มีลวดลายสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ที่นิยมทอคือ ผ้าซิ่นที่เรียกว่า “ซิ่นตา” ซึ่งเป็นผ้าชื่นที่ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ หัวซิ่นสีแดง ตัวซิ่นลายขวางหลากสีต่อตีนซิ่นสีดำความเด่นอยู่ที่ตัวซิ่น ซึ่งมีริ้วลายขวางสลับสีสดใสและตรงช่วงกลางมีลวดลายที่ทอเป็นลายรูปสัตว์ในวรรณคดี ลายพรรณพฤกษา และลายเรขาคณิต ลายที่เป็นที่รู้จักและนิยมคือ “ลายน้ำไหล” มีลวดลายและสีสันทึ่งดงามแปลกตา และเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นเฉพาะกลุ่มที่แตกต่างจากผ้าซิ่นของกลุ่มชาติพันธุ์ไทกลุ่มอื่นๆ สามารถหาซื้อได้ที่บ้านหาดบ้าย พิพิธภัณฑ์ลื้อลายคำกลุ่มทอผ้าในตำบลศรีตอนชัย อำเภอเชียงของ

  4. แวะชิมอาหาร

    ข้าวแรมฟืน

    เป็นอาหารดั้งเติมของชาวไทใหญ่ ไทลื้อ ที่มาจากสิบสองปันนา ปัจจุบันนี้กลายมาเป็นอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงราย ทำมาจากการโม่ข้าวเจ้า(ข้าวสวย)เพื่อทำเป็นแป้ง แล้วนำน้ำแป้งที่ตกตะกอนนั้นมาเคี่ยวกับน้ำปูนใสจนสุกเทใส่ภาชนะทิ้งไว้เพื่อให้แข็งตัว แล้วนำมากินได้ ถ้าผสมถั่วลันเตาจะเป็นสีเหลือง ผสมถั่วลิสงจะเป็นสีม่วงอ่อน สามารถนำไปทำได้ทั้งเมนูคาวหวานสามารถหาทานได้ตามร้านอาหารทั่วไปในจังหวัดเชียงรายที่นี่เมนูดังกล่าว

    ข้าวแรมฟืน
    ข้าวแรมฟืน

    ข้าวซอยน้อย

    คือ ก่วยเตี๋ยวแผ่นทำสด เป็นอาหารตั้งเดิมของชาวไทใหญ่ ไทลื้อ ที่มาจากสิบสองปันนาทำจากแป้งข้าวเจ้า นำไปทำเมนูได้หลายอย่าง ทำเป็นเส้นก๋วยเดี่ยวก็ได้ หรือนำไปใส่เครื่องปรุงต่างๆทำเป็นข้าวซอยน้อยทรงเครื่องซึ่งบางคนเรียกว่า พิชช่าไทใหญ่/ไทลื้อ หรือนำไปยำ สามารถหาทานได้ตามร้านอาหารทั่วไปในจังหวัดเชียงรายที่มีเมนูดังกล่าว

    ข้าวกั้นจิ้น (สูตรต้นฉบับภาคเหนือแต้ๆก่า)

    หรือข้าวเงี้ยว หรือจิ้นสัมเงี้ยว เชื่อว่าเป็นอาหารของชาวไทใหญ่หรือเงี้ยว ใช้ใบตองห่อเช่นเดียวกับแหนม (จิ้นสัม) จึงเรียกว่า ข้าวเงี้ยว หรือจิ้นส้มเงี้ยว โดยการนำน้ำเลือดหมูและเนื้อหมูมาคั้นกับใบตะไคร้ และนำมาผสมกับข้าวสวยแล้วจึวจึงนำไปนิ่ง ราดด้วยกระเทียมเจียวหอมๆ ทานกับพริกทอด และใบผักชี แตงกวาสดๆ เป็นอะไรทีฟินนนนนมากๆ ของแท้รรรรร

 

ข้าวกั้นจิ้นของแท้
ข้าวกั้นจิ้น

 

ช่วงเวลาท่องเที่ยวที่เหมาะสม

สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าอยากเห็นเกาะแก่งในลำน้ำโขงต้องไปเที่ยงใน ช่วงหน้าแล้ง ตั้งแต่เตือนพฤศจิกายน-เดือนพฤษภาคม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Back To Top